QyouSuccess
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  

คุณว่าจริงมั้ย ? คนเรามีปัญหาหนักๆคล้ายกันอยู่ 2 เรื่อง คือ เงิน และ เวลา

คุณเห็นด้วยใช่มั้ยครับ? บางคนมีเงินแต่ไม่มีเวลา เค้าไม่มีความสุข ซ้ำร้ายหลายคนที่ไม่มีทั้งเงินและเวลา

มนุษย์ เงินเดือน ส่วนใหญ่มักให้กำลังใจตัวเองว่า
"ทำงานที่เราชอบถึงไม่ก้าวหน้า แต่ก็มีความสุข"

แต่ความจริงที่ต้องยอมรับ คือ งานประจำทำไปเพื่อพิสูจน์ความเก่ง แต่ไม่ช่วยให้รวย ใช้เงินเดือนชนเดือน หยุดทำไม่ได้ และคนทำงานเก่งโดนบีบให้ออกมีเยอะแยะไป

แล้วแบบนี้คุณมั่นใจได้อย่างไรว่างานประจำ มั่นคง?


มันจะไปมีประโยชน์อะไรครับ ถ้าคนที่ คุณรักยังไม่สุขสบาย คุณว่าความสุขส่วนตัวกับสุขของครอบครัวอะไร สำคัญกว่ากัน ?

ถึง เวลาแล้วครับที่ คุณ จะทำอะไรเพื่อตัวคุณเองและครอบครัวที่คุณรัก

 

20 สัญญาณเตือนว่า ‘ขาดเอนไซม์’

เบื้องหลังสิ่งเร้นลับที่ดูแลสุขภาพของเราอยู่คือ มิราเคิลเอนไซม์ที่อยู่ภายในร่างกาย ถ้ามิราเคิลเอนไซม์เพียงพอก็จะไม่อ้วนหรือผอมจนเกินไป ได้รับเชื้อก่อโรคก็ไม่แสดงอาการของโรค 

หรือแม้แต่จะเกิดโรคก็จะไม่หนักและหายได้ง่าย คนที่ใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมเดียวกัน มีนิสัยการกินคล้ายคลึงกัน บางคนอาจป่วยบางคนอาจแข็งแรง ความแตกต่างนี้เกิดจากปริมาณของมิราเคิลเอนไซม์แต่ละคน

      ในการดำรงชีวิตของคนเราต้องอาศัยเอนไซม์มากกว่า 5,000 ชนิดช่วยเหลือ การศึกษาเรื่องหน่วยพันธุกรรมพบว่าเอนไซม์นั้นอาจมีมากถึง 30000 ชนิดด้วยซ้ำ ความสามารถในการทำสิ่งต่างๆของร่างกายก็เกี่ยวข้องกับเอนไซม์นี่แหล่ะ 

การดำรงชีวิตของมนุษย์จึงขาดเอนไซม์ไม่ได้ เอนไซม์ถูกสร้างขึ้นภายในร่างกาย แต่รายละเอียดเกี่ยวกับเอนไซม์เช่น ร่างกายต้องการเอนไซม์ชนิดใด ปริมาณเท่าใด? และเอนไซม์ถูกสร้างขึ้นได้อย่างไร? กลับยังหาคำตอบไม่ได้

       เอนไซม์ไม่มีต้นกำเนิดเฉพาะของตัวเอง แต่จะมีการสะสมเอนไซม์ต้นแบบหรือมิราเคิลเอนไซม์ขึ้นภายในร่างกายก่อน จากนั้นจึงค่อยถูกเปลี่ยนไปเป็นเอนไซม์ชนิดที่ร่างกายต้องการใช้งาน

ทุกวันนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่าร่างกายต้องมีเอนไซม์มากแค่ไหนถึงจะสุขภาพดี และเหลือน้อยเพียงใดจึงจะเจ็บป่วย แต่สิ่งหนึ่งที่เดาได้ไม่ยากก็คือ หากปริมาณของมิราเคิลเอนไซม์ต่ำกว่าระดับที่ควรจะเป็น ถึงจะไม่ทำให้เสียชีวิต แต่ก็ทำให้ป่วยได้

และถ้ายังคงลดลงอย่างต่อเนื่องอาจกลายเป็นโรคมะเร็งได้ โรคมะเร็งที่ร้ายแรงส่วนนึงมีสาเหตุจากปริมาณเอนไซม์ในร่างกายที่มีน้อยเกินไป ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันก็ต้านโรคมะเร็งได้ต่ำลงด้วย ฉะนั้นจึงควรรักษาปริมาณมิราเคิลเอนไซม์ให้คงที่ไว้เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง

อาการเตือนที่บอกให้ทราบว่าคุณขาดเอนไซม์หรือไม่

เราตัดสินว่าใครแข็งแรงจากสิ่งใด?

การตัดสินว่าใครแข็งแรงด้วยการดูแค่ว่าคนนั้นป่วยหรือไม่? ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง! และคนจำนวนมากจึงเข้าใจผิดคิดว่าการที่ตัวเองไม่ป่วยหมายถึงมีสุขภาพดี

ซึ่งคนในกลุ่มที่คิดว่าตนเองสุขภาพดีนั้น อันที่จริงมีไม่น้อยที่จัดอยู่ในประเภทยังไม่ป่วยแต่เอนไซม์ในร่างกายได้ลดลงไปแล้ว พูดง่ายๆว่า“แม้ไม่มีอาการของโรค แต่สุขภาพกำลังถูกคุกคามอยู่”

      ในปัจจุบันยังไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขได้ว่า มิราเคิลเอนไซม์ลดลงไปถึงเท่าใดจึงจะเกิดโรค เราจึงควรหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของร่างกายเพื่อรับสัญญาณเตือนที่ร่างกายส่งออกมาก่อน 

สัญญาณ 20 ข้อต่อไปนี้คือสิ่งที่บอกให้รู้ว่าร่างกายสูญเสียเอนไซม์ไปมากแล้วนะ ลองมาตรวจสอบระดับเอนไซม์ของตัวเองดูสิว่าเป็นอย่างไรบ้างจากแบบทดสอบนี้

20 สัญญาณเตือนเมื่อ ‘ขาดเอนไซม์’

  1. เป็นหวัดง่าย 
  2. ปวดกล้ามเนื้อ ข้อต่อหรือเอว
  3. ท้องผูกต่อเนื่อง ท้องเสียหรืออุจจาระมีกลิ่นเหม็นมาก
  4. ผิวหยาบ เป็นสิวหัวช้างบ่อย
  5. กลัวหนาว
  6. คลื่นไส้ ปวดกระเพาะ ไม่อยากอาหาร
  7. อาหารไม่ย่อย เรอบ่อย
  8. ตาล้า มองเห็นไม่ชัด
  9. ปวดหัว นอนไม่หลับ
  10. ผมร่วง ผมบาง
  11. กระและรอยย่นบนผิวหนังเพิ่มขึ้น
  12. น้ำหนักเพิ่มหรือลดกระทันหันโดยไม่มีสาเหตุ
  13. มือเท้าชา
  14. ตัวบวมง่าย
  15. เหนื่อยง่าย เวียนหัวตาลาย
  16. แพ้อาหาร ผิวหนังอักเสบ หอบ
  17. หูอื้อบ่อย
  18. ใจร้อน   หยุดหงิด อารมณ์เสีย
  19. ไม่ค่อยมีสมาธิ วิตกกังวลง่าย
  20. ความอดทนต่ำ

ผลการทดสอบเป็นยังไงบ้างล่ะทีนี้?

ส่วนใหญ่ก็เคยมีอาการเหล่านี้ แต่คนกว่าครึ่งคิดว่าเป็นเพราะร่างกายอ่อนล้า งานยุ่ง หรืออายุมากแล้ว ไม่ได้คาดคิดว่าเป็นเพราะสุขภาพกำลังถูกคุกคามอยู่ อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้ผิวหนังเริ่มหย่อนยานซึ่งก็ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของร่างกาย

ความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วพริบตา แต่จะค่อยๆเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ถ้ารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงเช่น “ทำไมจู่ๆ..หรือพักนี้…” นั่นหมายถึงว่าร่างกายส่งสัญญาณเตือนออกมาบอกให้เรารู้ว่ากำลังสูญเสียเอนไซม์ในปริมาณมาก

ทางที่ดีควรรีบชดเชยเอนไซม์กลับเข้าสุ่ร่างกายโดยเร็วเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง นี่เป็นพื้นฐานของการรักษาด้วยเอนไซม์บำบัด เมื่อคุณรู้สึกได้ว่าสัญญาณเตือนหายไปและกลับมามีพละกำลังอย่างได้เห็นได้ชัดนั่นแหล่ะ แปลว่าสุขภาพที่ดีของคุณกำลังกลับมา..

รับยีนที่ดีจากอาหาร

ฮาวเวลล์นักชีวเคมีผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเอนไซม์ชาวอเมริกัน พบว่าการผลิตเอนไซม์ในสิ่งมีชีวิตนั้นมีจำกัด เอนไซม์ที่มีจำกัดนี้เรียกว่า เอนไซม์แฝง และถ้าเอนไซม์แฝงถูกใช้จนหมดสิ่งมีชีวิตนั้นก็จะตาย

ถ้าร่างกายได้รับอาหารที่ช่วยชดเชยเอนไซม์และใช้ชีวิตอย่างประหยัด มิราเคิลเอนไซม์นี้ก็จะเพิ่มขึ้นได้ อวัยวะต่างๆจะทำงานดีขึ้น และยังทำให้เซลล์กระฉับกระเฉงขึ้นอีกด้วย

      เอนไซม์ที่ดูแลปกป้องสุขภาพของเรานี้ผลิตได้จาก 2 แหล่งคือ เซลล์และแบคทีเรียในลำไส้ เอนไซม์ที่ถูกผลิตจากเซลล์จะมีวัตถุดิบคือสารอาหารจากอาหารที่เรากินเข้าไปนั่นเอง 

ฉะนั้นถ้าอยากให้เอนไซม์เพิ่มขึ้นก็ต้องกินอาหารที่อุดมด้วยเอนไซม์ เอนไซม์ที่เข้าสู่ร่างกายก็จะถูกย่อยสลายเป็นกรดอะมิโนก่อนร่างกายจึงจะดูดซึมได้

       หลายคนสงสัยว่าในเมื่อร่างกายดูดซึมเอนไซม์ในรูปกรดอะมิโน ถ้าอย่างนั้นกินอาหารที่มีกรดอะมิโนมากๆเข้าไปก็คงไม่ต่างกัน คำตอบคือต่างกันอย่างมาก.. เพราะการรับเอนไซม์เข้าสู่ร่างกายมีความหมายเฉพาะตัว สารอาหารทุกชนิดมีโครงสร้างเฉพาะตัว

กรดอะมิโนที่ได้จากการย่อยสลายเอนไซม์กับกรดอะมิโนจากการย่อยสลายโปรตีนอื่นๆจะมีโครงสร้างที่แตกต่างกัน แม้ว่าจะมีโครงสร้างบางส่วนเหมือนกันก็ตาม

       เมื่อร่างกายต้องการผลิตเอนไซม์เพื่อใช้งานขึ้นมา กรดอะมิโนที่มีข้อมูลเหมือนกันโครงสร้างแบบเดียวกันเหล่านี้ก็จะรวมตัวกันได้ง่ายกว่า เหมือนกับภาพจิ๊กซอว์ที่แม้จะถูกแบ่งออกเป็นชิ้นเล็กๆจำนวนมากก็ยังคงมีข้อมูลของภาพเดิมอยู่ จึงนำมาประกอบเป็นภาพขนาดใหญ่ได้อีกครั้งนั่นเอง

       กรดอะมิโนที่มีต้นกำเนิดและโครงสร้างต่างกันก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันด้วย เช่นเดียวกับคนเราที่มีนิสัยใจคอและความสามารถไม่เหมือนกันเพราะต่างที่มา

ฉะนั้นถ้าหากต้องการกรดอะมิโนที่มีโครงสร้างแบบเอนไซม์ก็จะต้องกินอาหารที่อุดมด้วยเอนไซม์เท่านั้น ซึ่งก็คืออาหารที่มีพลังชีวิต มีเอนไซม์และยีนที่ดี เลือกผักผลไม้ ปลา หรือเนื้อสัตว์อื่นๆที่สดและมีพลังชีวิต

       อีกแหล่งหนึ่งที่สามารถสร้างเอนไซม์ได้ก็คือ จุลินทรีย์ในลำไส้ ถ้าบอกว่าคนเรามีจุลินทรีย์จำนวนมากในลำไส้ สาวๆคงขยะแขยง ซึ่งความจริงถ้าไม่มีจุลินทรีย์เหล่านี้เราก็ไม่สามารถมีสุขภาพที่ดีได้ 

ถือว่าเป็นคู่หูที่ขาดไม่ได้ทีเดียว นอกจากนี้จุลินทรีย์ในลำไส้จะสามารถผลิตเอนไซม์ได้มากกว่า 3000 ชนิด ซึ่งมีบางชนิดที่ร่างกายเราไม่สามารถผลิตเองได้

       จุลินทรีย์ในลำไส้ที่ผลิตเอนไซม์ที่มีประโยชน์จะถูกเรียกว่า จุลินทรีย์ฝ่ายดี ขณะเดียวกันจุลินทรีย์ฝ่ายร้ายที่ทำให้เกิดการเน่าเสียในลำไส้ก็สำคัญ เพราะจะช่วยขับของเสียออกจากร่างกายได้อย่างรวดเร็ว

สิ่งที่สำคัญคือจะปรับสภาพภายในลำไส้ให้ดีได้อย่างไร? เพื่อให้ทั้งฝ่ายดีและฝ่ายร้ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมดุลกันนั่นเอง

        การกินอาหารที่อุดมด้วยเอนไซม์ และอาหารที่มีพลังชีวิตซึ่งมียีนที่ดี รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในลำไส้เพื่อกระตุ้นจุลินทรีย์ในลำไส้ จะเป็นวิธีที่สามารถเพิ่มปริมาณมิราเคิลเอนไซม์ได้เป็นอย่างดี


Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 10,007 Today: 16 PageView/Month: 19

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...